เลือกระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง มอเตอร์ไซค์แบบไหนดี?

เลือกระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง มอเตอร์ไซค์แบบไหนดี?

เลือกระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง มอเตอร์ไซค์แบบไหนดี? อุปกรณ์สำคัญของรถมอเตอร์ไซค์ต้องมีระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง ถึงแม้จะมีการพัฒนาระบบหัวฉีดที่ทันสมัยเข้ามารอบรับการจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงแต่ “คาร์บูเรเตอร์” ก็ยังคงเป็นอุปกรณ์จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงในเครื่องยนต์ที่ได้รับความนิยม เนื่องจากกลไกของระบบไม่ซับซ้อน ซ่อมง่าย และมีอะไหล่ทดแทนมีให้เลือกมากมาย

สำหรับท่านใดที่สงสัยว่า รถมอเตอร์ไซค์ควรใช้ระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงรูปแบบใดถึงจะเหมาะสม ระหว่างระบบหัวฉีด หรือ ระบบคาร์บูเรเตอร์ วันนี้ทางเรามีข้อสรุป พร้อมคำแนะนำมาฝาก

‍คาร์บูเรเตอร์ (Carburetor)

เลือกระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง มอเตอร์ไซค์แบบไหนดี?

คาร์บูเรเตอร์” คือ กลไกระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงในเครื่องยนต์ มีหน้าที่ควบคุมความเร็วของเครื่องยนต์ ด้วยการผสมน้ำมันกับอากาศให้เป็นไอดี จากนั้นจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงและอากาศเข้าสู่ห้องเผาไหม้อย่างเหมาะสม ช่วยให้เครื่องเดินเรียบ สตาร์ทรถง่าย ไม่ก่อให้เกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม โดยคาร์บูเรเตอร์ทั่วไปมี 2 แบบ คือ

  • แบบลูกสูบ ใช้ลูกสูบหรือลูกชักเป็นตัวเปิดปิดให้อากาศเข้าไปผสมกับน้ำมันและเข้าสู่เครื่องยนต์ พบเห็นง่ายตามรถมอเตอร์ไซค์ทั่วไป
  • แบบลิ้นปีกผีเสื้อ ใช้ลิ้นปีกผีเสื้อเป็นตัวเปิด-ปิด แทนลูกสูบ มักพบเห็นได้กับรถมอเตอร์ไซค์ยุคแรก ๆ

คาร์บูเรเตอร์ทำหน้าที่ให้น้ำมันกับอากาศผสมกันจนกลายเป็นไอดี และส่งเข้าสู่ห้องเผาไหม้อย่างเหมาะสม มีความสอดคล้องกับความเร็วของเครื่องยนต์และอาศัยหลักการเกิดสุญญากาศ เมื่อเครื่องยนต์อยู่ในระยะเดินเบาหรือความเร็วรอบของเครื่องยนต์ต่ำ ลิ้นปีกผีเสื้อหรือลูกสูบในคาร์บูเรเตอร์จะเปิดน้อย ส่งผลให้ปริมาณน้ำมัน และอากาศที่ถูกส่งเข้าไปในห้องเผาไหม้น้อยลง ส่งผลให้เครื่องยนต์เดินรอบต่ำ แต่ถ้าหากต้องการให้เครื่องยนต์มีรอบความเร็วของเครื่องยนต์สูงขึ้น ลิ้นปีกผีเสื้อจะเปิดมากขึ้น เพื่อให้ปริมาณไอดีก็จะเข้าในห้องเผาไหม้

คาร์บูเรเตอร์ นับว่าเป็นส่วนสำคัญของเครื่องยนต์มอเตอร์ไซค์ มีบทบาทในการส่งเสียงยนต์ให้กับยานพาหนะ ทั้งนี้การทำงานของคาร์บูเรเตอร์ขึ้นอยู่กับความเร็วของรอบเครื่องยนต์สอดคล้องกับการจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงให้กับเครื่องยนต์ในสัดส่วนที่เหมาะสม ถ้ารอบเดินของเครื่องยนต์สูงขึ้น การทำงานของคาร์บูเรเตอร์จะดีขึ้นเช่นกัน ซึ่งทำให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยที่คุณไม่ต้องเจอกับปัญหาการสตาร์ทเครื่องไม่ติด หรือสตาร์ทเครื่องติดยาก รวมถึงกลิ่นน้ำมันคลุ้งเมื่อคุณสตาร์ทรถของคุณด้วย

‍ข้อดีของคาร์บูเรเตอร์

  • มีกลไกการทำงานที่ไม่ซับซ้อน
  • ระบบมีความทนทานแข็งแรง
  • ซ่อมเองได้ง่าย มีอะไหล่ทดแทนจำนวนมาก
  • ติดตั้งง่าย ดูแลสะดวก
  • ราคาถูก

ข้อเสียคาร์บูเรเตอร์

  • ปล่อยสารพิษออกมาในปริมาณที่สูง
  • สิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงกว่าระบบหัวฉีด

เพราะฉะนั้น คาร์บูเรเตอร์ จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ชินกับระบบดั้งเดิมแบบแมคคานิค (Mechanical) ไม่มีไฟฟ้ามาเกี่ยวข้อง และผู้ที่ต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายในการติดตั้งและดูแลชิ้นส่วนรถมอเตอร์ไซค์

หัวฉีด (Electronic Fuel Injector)

เลือกระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง มอเตอร์ไซค์แบบไหนดี?

‍“หัวฉีด” คือ อุปกรณ์จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงเข้าห้องเผาไหม้โดยตรง มีวงจรอิเล็กทรอนิกส์คอยควบคุมอย่างเหมาะสม นำมาใช้แทนคาร์บูเรเตอร์ ในเครื่องยนต์แก๊สโซลีนรุ่นใหม่ ๆ โดยหัวฉีดจะจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงออกมาเป็นฝอยละอองที่มีความละเอียดสูงเข้าสู่ห้องเผาไหม้โดยตรง ภายใต้การควบคุมความแม่นยำของกล่องอิเล็กทรอนิกส์ ECU ช่วยให้การเผาไหม้เชื้อเพลิงมีความสมบูรณ์แบบมากกว่าระบบคาร์บูเรเตอร์ ส่งผลให้เครื่องเดินเรียบ สตาร์ทรถได้อย่างไม่มีสะดุด ไม่ก่อให้เกิดมลพิษควันดำที่เป็นผลเสียต่อสิ่งแวดล้อม

‍การทำงานขั้นพื้นฐานของหัวฉีดคือ เมื่อทำการสตาร์ทเครื่องยนต์ สัญญาณจากวงจรการสตาร์ท ทำให้หัวฉีดสตาร์ทเย็น ทำหน้าที่เพิ่มปริมาณการฉีดน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อการสตาร์ทครั้งแรก หรือตอนเครื่องยนต์มีอุณหภูมิต่ำ เมื่อเครื่องยนต์ติดแล้ว เทอร์มิสเตอร์ทำหน้าที่ตรวจอุณหภูมิของน้ำหล่อเย็นจะแปลงคำความร้อนไปเป็นความต้านทานทางไฟฟ้า ส่งสัญญาณไฟฟ้าที่ได้ไปที่กล่อง ECU ต่อจากนั้นไอดีจะจ่ายให้กับเครื่องยนต์ตามความเหมาะสม เมื่อเร่งเครื่องกล่อง CPU จะประมวลผล และปรับแรงดันของระบบฉีดเชื้อเพลิงให้สูงขึ้น ตามค่าการเปลี่ยนแปลงที่มากขึ้นของปริมาตรไอดี และนี่ก็คือการเริ่มต้นของกระบวนการของระบบหัวฉีด ยิ่งเร่งเครื่องยนต์ได้เร็วขึ้น เซ็นเชอร์ที่ตำแหน่งลิ้นเร่งก็จะเพิ่มองศาเพิ่มขึ้น พร้อมกับส่งสัญญาณไปที่กล่อง ECU ทำการประมวลผล และปรับให้ปริมาณการฉีดจ่ายเชื้อเพลิง และอากาศมากขึ้นตามไปด้วย ดังนั้น เพื่อให้ปริมาตรอากาศ กับน้ำมันมีความเหมาะสมต่อการทำงาน ผลที่ได้ก็คือ ระบบ EF จะจ่ายส่วนผสมไอดีให้แต่ละสูบด้วยปริมาณที่เท่ากัน ทำให้ประหยัด ลดมลภาวะไอเสีย และเพิ่มสมรรถนะให้เครื่องยนต์

ข้อดีของหัวฉีด

  • เผาไหม้เชื้อเพลิงมีความสมบูรณ์แบบมากกว่าระบบคาร์บูเรเตอร์
  • จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงได้ละเอียดที่สุด
  • ลดควันดำ ไม่ก่อให้เกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม
  • มีกล่อง ECU ช่วยควบคุมการทำงาน

ข้อเสียของหัวฉีด

  • ราคาแพงกว่าคาร์บูเรเตอร์
  • กลไกการทำงานซับซ้อนกว่าคาร์บูเรเตอร์
  • อาจเกิดปัญหาได้ เช่น ระบบจะรวนทั้งหมด เพราะเป็นระบบไฟฟ้า

ซึ่ง หัวฉีด ส่วนใหญ่เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบในการทำงานของระบบไฟฟ้า และผู้ที่ต้องการระบบที่เผาไหม้เชื้อเพลิงได้อย่างสมบูรณ์แบบ

บทความแนะนำ

สรุป

เพราะฉะนั้น สำหรับท่านใดที่ไม่ชอบกลไกการทำงานที่ซับซ้อน เลือกใช้คาร์บูเรเตอร์ได้ แถมราคาประหยัดกว่าระบบหัวฉีด ถึงแม้คาร์บูเรเตอร์จะมีการเผาไหม้เชื้อเพลิงที่สู้ระบบหัวฉีดไม่ได้ เพราะต้องกำหนดค่าต่าง ๆ เอง โดยระบบหัวฉีดมีการเผาไหม้ที่สมบูรณ์แบบด้วยมันสมองจากคอมพิวเตอร์อย่างกล่อง ECU แต่กลไกการทำงานของหัวฉีดค่อนข้างซับซ้อน ราคาสูง ถ้าทำพังแค่ส่วนเดียวอาจส่งผลให้ระบบรวนทั้งหมด ทางที่ดีควรเลือกให้เหมาะกับตัวเองและเครื่องยนต์ดีที่สุด พร้อมทั้งเช็กด้วยว่า รถมอเตอร์ไซค์รุ่นของคุณเหมาะกับระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงชนิดใด จะได้เลือกใช้อย่างเหมาะสมและไม่ให้เกิดปัญหาในภายหลัง

สามารถสั่งซื้อสินค้าโดยตรงได้ที่

Shopee : NRM Motor

โทร : 04-4511982

Line : @narinmotor

Facebook : NRM Motor

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *