สัญญาณที่บ่งบอกถึงเวลาเปลี่ยนแบตเตอรี่มอเตอร์ไซค์
Jan
สัญญาณที่บ่งบอกถึงเวลาเปลี่ยนแบตเตอรี่มอเตอร์ไซค์ อะไหล่มอเตอร์ไซค์ทุกชิ้นมีหน้าที่และความสำคัญที่แตกต่างกัน อะไหล่มอเตอร์ไซค์มีวันเสื่อมสภาพหรือมีอายุการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป โดยเฉพาะ แบตเตอรี่ ถือเป็นอะไหล่ที่มีความสำคัญไม่แพ้อะไหล่ชิ้นอื่น แบตเตอรี่เองก็มีวันที่ต้องเปลี่ยนเหมือนกัน เชื่อว่าหลายคนที่ใช้รถมอเตอร์ไซค์คงเคยเจอปัญหาแบตเตอรี่เสื่อมทำให้เกิดปัญหาในการสตาร์ตรถ โดยเฉพาะรถมอเตอร์ไซค์ถือเป็นยานพหนะที่เกี่ยวข้องกับระบบไฟฟ้าโดยตรง เพราะแบตเตอรี่เป็นอุปกรณ์สำคัญที่จัดเก็บไฟฟ้า คงมีหลายคนสงสัยว่าอาการแบบไหนที่แสดงออกว่าแบตเตอรี่มีปัญหา หรือแบตเตอรี่เสื่อมเกิดจากสาเหตุอะไร เทคนิคการตรวจการตรวจเช็กสภาพแบตเตอรี่ด้วยตัวเองยังไง และการเลือกขนาดแบตเตอรี่ให้เหมาะกับประเภทรถมอเตอร์ไซค์วันนี้ NRM Motor จะพาทุกคนมาไขข้อข้องใจปัญหาของแบตเตอรี่เสื่อมกัน
สาเหตุของแบตเตอรี่เสื่อม
สาเหตุของแบตเตอรี่เสื่อมสามารถเกิดได้หลายสาเหตุ ส่วนใหญ่จะเกิดจากการจอดมอเตอร์ไซค์ทิ้งไว้นาน ๆ โดยไม่ได้ใช้งาน เพราะการสตาร์ตรถและขับใช้งานเป็นการกระตุ้นให้ แบตเตอรี่ และเป็นการชาร์จไฟไปในตัว แต่ถ้าหากไม่มีการใช้งานแบตเตอรี่ก็จะไม่ได้รับการกระตุ้นทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพ หมดประสิทธิภาพทั้งในการกักเก็บและจ่ายไฟฟ้า อาจจะทำให้ไม่สามารถชาร์จไฟเข้าได้หรือก็คือแบตเตอรี่เสื่อมก่อนหมดอายุการใช้งาน
สัญญาณอาการของแบตเตอรี่เสื่อม
- รถมอเตอร์ไซค์สตาร์ตไม่ติดหรือสตาร์ตติดยากกว่าปกติ ถือเป็นสัญญาณเตือนแรกของอาการแบตเตอรี่เสื่อมหรือแบตเตอรี่ใกล้หมดแล้ว สิ่งที่ควรทำคือการถอดนำแบตเตอรี่มาชาร์จไฟและตรวจสอบสภาพแบตเตอรี่ ไม่ควรเข็นรถเพื่อสตาร์ตเพราะอาจทำให้เครื่องยนต์เสียหายได้ สัญญาณที่บ่งบอกถึงเวลาเปลี่ยนแบตเตอรี่มอเตอร์ไซค์
- ความสว่างของไฟหน้าทำงานผิดปกติ หากทำการขี่รถมอเตอร์ไซค์ในตอนกลางคืนจะสังเกตเห็นได้ชัดว่า ไฟหน้านั้นสว่างน้อยลงหรือมองทางไม่ชัดเป็นอีกสัญญาณที่บอกว่าแบตเตอรี่อ่อนหรือแบตเตอรี่ใกล้หมดแล้ว หรือลองสตาร์ตรถที่บ้านในตอนกลางคืนแล้วปิดไฟโรงรถเพื่อดูความสว่างของไฟหน้า
- กระจกไฟฟ้าเริ่มทำงานช้าลง เป็นอีกหนึ่งอาการที่มักเกิดขึ้นจากกำลังไฟจากแบตเตอรี่ไม่เพียงพอ จากปกติที่เคยกดทีเดียวขึ้น – ลงสุดอย่างรวดเร็วกลับค่อยๆ ขึ้น – ลงช้า ๆ พร้อมเสียงมอเตอร์กระจกไฟฟ้าที่หมุนแบบหนืดๆ เหมือนไม่มีกำลัง
- ใช้งานแบตเตอรี่เกินอายุการใช้งาน โดยปกติแบตเตอรี่มอเตอร์ไซค์จะใช้งานได้ประมาณ 2 ปี ถ้าหากใช้งานเกินสองปีจะเกิดอาการข้างต้นได้ไปจนถึงไม่สตาร์ตรถไม่ติดได้
การป้องกันไม่ให้แบตเตอรี่เสื่อม
- ควรใช้รถมอเตอร์ไซค์สม่ำเสมอถ้าหากไม่ได้ขับออกไปข้างนอกทำการสตาร์ตรถทิ้งไว้เพื่อที่จะช่วยกระตุกให้แบตเตอรี่ได้ทำงานถือเป็นการชาร์จไฟไปในตัว
- ควรเลือกแบตเตอรี่ที่มีปริมาณกระแสไฟฟ้าให้เหมาะกับรถมอเตอร์ไซค์ โดยสามารถตรวจสอบสเปกของตัวแบตเตอรี่ทางคู่มือที่มาพร้อมกับรถมอเตอร์ไซค์
- หากมีเหตุจำเป็นต้องจอดรถทิ้งไว้เป็นเวลานาน ควรจะหาเครื่องชาร์จมาชาร์จแบตเตอรี่เอาไว้ จะเป็นการช่วยยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ได้
- ไม่ควรดัดแปลงไดชาร์จ ถึงการดัดแปลงไดชาร์จจะช่วยให้สามารถชาร์จไฟได้เร็วกว่าปกติ แต่จะทำให้กระแสไฟฟ้าไหลเข้าแบตเตอรี่เร็วเกินจะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพได้เร็วทำให้เกิดอาการ ไฟไม่ชาร์จเข้าแบตเตอรี่ได้
- ถ้าหากพึ่งเปลี่ยนแบตเตอรี่มาใหม่แต่มีอาการไฟชาร์จไม่เข้าแบตเตอรี่ อาจจะเกิดจากเรกกูเรเตอร์หรือแผ่นชาร์จมอเตอร์ไซค์เสีย เพราะตัวเรกกูเรเตอร์ หรือแผ่นชาร์จมอเตอร์ไซค์ คือตัวกลางที่ทำหน้าที่ชาร์จไฟฟ้าเข้าแบตเตอรี่โดยที่ไม่ให้ไฟฟ้าเข้าไปเกินในแบตเตอรี่
การตรวจเช็กสภาพแบตเตอรี่ด้วยตัวเอง
- ควรเช็กระดับน้ำกลั่นสำหรับแบตเตอรี่แบบน้ำ เพราะเวลาใช้รถมอเตอร์ไซค์ไปสักระยะหนึ่งจะทำให้เกิดการสูญเสียน้ำจากความร้อนของเครื่องยนต์ ทางที่ดีควรตรวจเช็กระดับน้ำให้ระดับน้ำกลั่นอยู่ในระดับสูงสุดเสมอ ไม่ควรให้ระดับน้ำกลั่นลดลงไปจนต่ำสุดเพราะจะทำให้แบตเตอรี่เสียได้
- ถ้าหากเป็นแบตเตอรี่แบบน้ำ ควรตรวจเช็กและทำความสะอาดตะกอนในขั้วบวก ขั้วลบ เพราะการที่ขั้วแบตเตอรี่สกปรก อาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้รถมอเตอร์ไซค์เร่งไม่ขึ้นหรือสตาร์ตติดยาก
- แบตเตอรี่แบบแห้งสามารถทำความสะอาดแบตเตอรี่และสายไฟด้วยน้ำอุ่นจากนั้นเช็ดให้แห้งอยู่เสมอ และสามารถทาวาสลีนเพื่อป้องกันคราบขี้เกลือได้
- ควรนำรถเข้าไปเช็กที่ศูนย์บริการเพื่อตรวจสภาพทุก 3 เดือนสม่ำเสมอ
- ถ้าต้องจอดรถทิ้งไว้เป็นเวลานานโดยที่ได้สตาร์ตรถควรถอดขั้วลบเพื่อที่จะได้ช่วยให้แบตเตอรี่ไม่เสื่อม
การเลือกขนาดแบตเตอรี่ให้เหมาะกับประเภทรถมอเตอร์ไซค์
1.รถมอเตอร์ไซค์ประเภท Family
จุดเด่นของรถประเภทนี้คือ ความทนทานใช้งานง่าย ตัวรถมีน้ำหนักเบาจึงบังคับทิศทางได้ง่าย เป็นรถที่ประหยัดน้ำมัน สามารถขับทางใกล้ได้ดีในระยะไม่เกิน 100 กิโลเมตรปริมาตรกระบอกสูบมีตั้งแต่ 110 – 150 cc เหมาะกับแบตเตอรี่ขนาดประมาณ 5 แอมป์
2.รถมอเตอร์ไซค์ประเภท Scooter
จุดเด่นคือเป็นรถที่ใช้งานง่ายและสามารถขับขี่ได้ในระยะทางสั้น ๆ ไม่เกิน 100 กิโลเมตรแตกต่างจากรถครอบครัวตรงที่มีการออกแบบให้แผ่นที่พักวางเท้าของรถสกู๊ตเตอร์มีขนาดใหญ่สามารถวางเท้าและนั่งได้สบาย ส่วนใหญ่จะเป็นเกียร์อัตโนมัติปริมาตรกระบอกสูบมีตั้งแต่ 110 – 125 cc เหมาะกับแบตเตอรี่ขนาดประมาณ 5 แอมป์
3.รถมอเตอร์ไซค์ประเภท Big Scooter
จุดเด่นคือเป็นรถที่คล้ายกับรถสกู๊ตเตอร์แต่มีขนาดที่ใหญ่กว่าสกู๊ตเตอร์ธรรมดา ออกแบบให้นั่งได้สบายทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสารใช้เกียร์อัตโนมัติปริมาตรกระบอกสูบมีตั้งแต่ 150 – 850 cc เหมาะกับแบตเตอรี่ขนาดมากกว่า 5 แอมป์ขึ้นไป
บทความที่เกี่ยวข้อง
- การเลือกซื้อหมวกกันน็อคอย่างถูกวิธีเพื่อความปลอดภัย
- เปลี่ยนหัวเทียนมอเตอร์ไซค์ตอนไหนดี
- การติดตั้งปะเก็นควรเลือกกาวปะเก็นแบบไหนดี
สรุป
อะไหล่มอเตอร์ไซค์ทุกชิ้นนั้นมีความสำคัญต่อการทำงานของรถมอเตอร์ไซค์มาก และมีหน้าที่ที่แตกต่างกันออกไปอะไหล่มอเตอร์ไซค์ที่สำคัญอย่างแบตเตอรี่เป็นอะไหล่มอเตอร์ไซค์ที่หลายคนมองข้าม แบตเตอรี่เป็นส่วนที่ช่วยในการขับเคลื่อนของรถมอเตอร์ไซค์ แบตเตอรี่คือส่วนที่ตอบจัดเก็บไฟฟ้าเพื่อที่จะส่งไฟฟ้าไปใช้ในส่วนต่างของตัวเครื่องยนต์ได้ แต่คงมีใครหลายคนที่ดูแลหรือใช้งานแบตเตอรี่ไม่ถูกวิธี ทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพก่อนอายุการใช้งาน ไปจนถึงการเลือกใช้ขนาดแบตเตอรี่ไม่เหมาะกับประเภทรถก็มีส่วนเช่นกัน หรือใครที่ประสบปัญหารถมอเตอร์ไซค์มีความผิดปกติ สาเหตุอาจจะเกิดจากแบตเตอรี่เสื่อมก็เป็นได้
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม
โทร : 04-4511982
Line : @narinmotor
Facebook : NRM Motor
