ทำความรู้จักกับหมวกกันน็อคที่หลายคนมองข้าม

ในการขับขี่รถมอเตอร์ไซค์หรือรถยนต์สิ่งที่สำคัญที่ควรคำนึงถึงคือความปลอดภัย สำหรับใครที่ขี่รถมอเตอร์ไซค์สิ่งที่ควรมีคือ หมวกกันน็อค ถืออุปกรณ์ที่ควรใส่ขณะขับขี่เพื่อความปลอดภัย เมื่อเกิดอุบัติเหตุจะเป็นสิ่งที่ช่วยในการป้องกันศีรษะกระแทกได้ ถือเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยลดความเสี่ยงจากการบาดเจ็บและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุได้ แต่ยังคงมีอีกหลาย ๆ คนที่ละเลยในการสวมหมวกกันน็อค ทั้งที่อุบัติเหตุที่เกิดบนท้องถนนนั้นอันดับหนึ่งคืออุบัติเหตุที่เกิดจากรถมอเตอร์ไซค์ โดยในปี 2564 จนถึงต้นปี 2565 เกิดอุบัติเหตุจากรถมอเตอร์ไซค์อยู่ที่ 89.95% ประเทศไทยติดอันดับประเทศที่มีผู้เสียชีวิตบนท้องถนนเป็นอันดับ 2 ของโลก วันนี้ NRM Motor จะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับหมวกกันน็อคให้มากขึ้น และมาดูกันถึงความสำคัญของหมวกกันน็อคว่าจะเป็นอย่างไร พร้อมทั้งมีความลับมาฝากทุกท่านว่าทำไมหมวกกันน็อคจึงเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยชีวิตเราได้

หมวกกันน็อคสำคัญขนาดไหน

สำหรับใครที่เป็นผู้ที่ใช้การเดินทางด้วยรถมอเตอร์ไซค์เป็นประจำ สิ่งที่สำคัญที่ควรใส่ขณะขับรถ คือ หมวกกันน็อค ไม่ว่าจะเป็นคนขับหรือคนซ้อนก็ควรสวมหมวกกันน็อคเพราะอาจจะเกิดอุบัติเหตุได้ทุกเมื่อ ที่สำคัญควรเลือกหมวกกันน็อคที่ถูกกฎหมายด้วย ถ้าหากเลือกหมวกกันน็อคที่ไม่ถูกกฎหมายอาจจะโดนตำรวจจับทำให้เสียค่าปรับได้ โดยหมวกกันน็อคที่ถูกกฎหมายต้องมีเครื่องหมาย มอก.ที่ได้รับมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม เพื่อให้มั่นใจว่าเป็นหมวกกันน็อคที่มีคุณภาพและมีความปลอดภัยที่ได้มาตรฐาน

ประเภทของหมวกกันน็อค

หมวกกันน็อคในปัจจุบันมีอยู่ด้วยกัน 6 ประเภท ดังนี้

1.หมวกกันน็อคแบบครึ่งใบ

หมวกกันน็อคแบบครึ่งใบ (Half face) เป็นหมวกกันน็อคที่มีราคาไม่แพง สวมใส่ง่าย หาซื้อง่าย ที่สำคัญใส่แล้วไม่ร้อนไม่อับด้วย เป็นหมวกกันน็อคที่นิยมใช้กันมากสำหรับผู้ที่ขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ แต่เป็นหมวกกันน็อคที่มีความปลอดภัยต่ำที่สุดเพราะมันแทบจะไม่ได้ปกป้องอะไรเลย มีเพียงส่วนป้องกันบริเวณศีรษะเท่านั้น ที่สำคัญไม่กันลมด้วย ไม่ค่อยเหมาะกับผู้ที่ขับขี่รถมอเตอร์ไซค์มีที่ระยะทางไกล

2.หมวกกันน็อคแบบเปิดหน้า

หมวกกันน็อคแบบเปิดหน้า (Open face) เป็นหมวกกันน็อคที่หลาย ๆ คนนิยมใช้งานกันมากเช่นกัน เป็นหมวกกันน็อคที่สามารถมองเห็นวิวรอบข้างได้อย่างชัดเจน ราคาของหมวกกันน็อคเริ่มต้นอยู่ที่หลักร้อย เหมาะกับการสวมใส่ในการขับขี่รถมอเตอร์ไซค์เป็นประจำทุกวัน และเหมาะกับการขับขี่ในเมืองด้วยความเร็วไม่มาก แต่หมวกกันน็อคแบบเปิดหน้ามีข้อเสีย คือ ไม่มีการปกป้องบริเวณคาง ถือเป็นหมวกกันน็อคที่มีความปลอดภัยระดับกลางสามารถป้องกันได้ในระดับนึง

3.หมวกกันน็อคแบบออฟโรด

หมวกกันน็อคแบบออฟโรด (Off road) หรือที่หลาย ๆ คนเรียกว่า หมวกกันน็อคมอเตอร์ครอส ถือเป็นหมวกกันน็อคที่มีความปลอดภัยสูง ความแตกต่างของหมวกกันน็อคมอเตอร์ครอสและหมวกกันน็อคเต็มใบ  คือ มีส่วนด้านหน้าที่ยื่นมาข้างบนเพื่อป้องกันแสงแดด และส่วนคางที่ยื่นออกมาเพื่อป้องกันโคลนหรือเศษหินเศษดินกระเด็นเข้าหน้าเมื่อต้องขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ไปตามเส้นทางวิบาก เป็นหมวกกันน็อคที่เหมาะกับการขับรถวิบากแต่ด้วยรูปทรงที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครทำให้เป็นที่นิยมในหมู่นักขับบิ๊กไบค์สายลุย

4.หมวกกันน็อคแบบเต็มใบ

หมวกกันน็อคแบบเต็มใบ (Full face) เป็นหมวกกันน็อคที่มีความปลอดภัยสูงที่สุดในหมวกกันน็อคทั้งหมด เป็นแบบที่อยากแนะนำให้ใช้กันมาก เพราะหมวกกันน็อคประเภทนี้ออกแบบมาให้มีส่วนป้องกันที่ครอบคลุมทั้งศีรษะและใบหน้า สามารถป้องกันศีรษะได้อย่างทั่วถึงครอบคลุมทั้งด้านหน้า, ด้านบน รวมถึงด้านหลังท้ายทอย เว้นไว้แต่ช่วงตาและจมูกเท่านั้นทำให้มีความปลอดภัยสูง เหมาะกับรถบิ๊กไบค์ และรถมอเตอร์ไซค์สำหรับแข่งขันที่ต้องใช้ความเร็วสูง ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ได้ และยังเป็นหมวกกันน็อคที่ถูกออกแบบมาสำหรับการขับขี่รถที่มีความเร็วสูง

5.หมวกกันน็อคแบบยกคาง

หมวกกันน็อคแบบยกคาง (Modular) ลักษณะคล้ายกับหมวกกันน็อคแบบเต็มใบแต่สามารถยกคางหมวกกันน็อคขึ้นมาได้ สามารถเปิดหน้าได้อย่างสะดวก เหมาะกับคนที่ขี่มอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์สไตล์ทัวร์ริ่ง ที่ใช้เดินทางระยะทางไกล ๆ เป็นหมวกกันน็อคที่มีน้ำหนักมากเพราะมีโครงสร้างและกลไกที่เพิ่มเข้ามา

6.หมวกกันน็อคแบบกึ่งวิบาก

หมวกกันน็อคแบบกึ่งวิบาก (Dual sport) เป็นหมวกกันน็อคที่มีลักษณะคล้ายกับหมวกวิบากกับหมวกเต็มใบ โดยมีรูปทรงคล้ายหมวกวิบาก แต่ช่วงคางยื่นออกมาไม่ยาวเท่า มีกระจกกันลมติดตั้งมาด้วย เหมาะสำหรับผู้ขี่มอเตอร์ไซค์ระยะทางไกลหรือใช้ขับขี่บนเส้นทางออฟโรด

หมวกกันน็อคทำงานยังไง

หมวกกันน็อคเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยลดความเสี่ยงจากการบาดเจ็บและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางการจราจรที่สำคัญมาก ๆ สำหรับคนที่ขับขี่รถมอเตอร์ไซค์แต่คงมีอีกหลายคนที่ไม่รู้ว่าหมวกกันน็อคทำงานยังไง ทำไมถึงเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญที่สามารถช่วยชีวิตเราเมื่อเกิดอุบัติเหตุได้ โดยหมวกกันน็อคมีทั้งหมด 5 ส่วนด้วยกันโดยแต่ละส่วนมีหน้าที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้

ส่วนที่ 1 เปลือกหมวกกันน็อค (Outer Shell) ส่วนนี้คือเปลือกหมวกกันน็อคที่ทำหน้าที่รับแรงกระแทกแล้วกระจายไปรอบ ๆ เพื่อดูดซับแรงก่อนถึงศีรษะ

ส่วนที่ 2 โฟมกันกระแทก (Impact Absorbing Liner) ในส่วนนี้จะทำจากวัสดุโพลีสเทอรีนเป็นส่วนที่หนาที่สุด มีหน้าที่ดูดซึมแรงกระแทกไว้ แต่หมวกกันน็อคบางยี่ห้อได้มีการดีไซน์โฟมกันกระแทกแบบ Double Density เพื่อให้รองรับแรงกระแทกได้มากยิ่งขึ้น

ส่วนที่ 3 ฟองน้ำ (Comfort Padding) ในส่วนนี้มีหน้าที่ทำให้สวมใส่ได้สบาย ทำให้หมวกกระชับกับศีรษะไม่ให้หมวกกันน็อคขยับหรือหมุนระหว่างขับขี่หรือเมื่อเกิดอุบัติเหตุ

ส่วนที่ 4 หน้ากาก (Face Shield) ในส่วนนี้จะทำหน้าที่กันลมและเศษหินหรือวัสดุต่าง ๆ ที่ปลิวตามทางไม่ให้โดนใบหน้า และที่สำคัญป้องกันไม่ให้ตานั้นโดนลมหรือแมลงเข้าตาได้ ช่วยป้องกันการเกิดต้อลมได้อีกด้วย

ส่วนที่ 5 สายรัดคาง (Chin Strap) เป็นส่วนสุดท้ายที่สำคัญที่หลาย ๆ คนละเลยไม่ค่อยให้ความสำคัญ ส่วนใหญ่จะสวมหมวกกันน็อคแล้วไม่ค่อยติดสายรัดคาง ทำให้บางครั้งเวลาขับขี่รถมอเตอร์ไซค์อาจจะทำให้หมวกกันน็อคปลิวไปโดนรถคันอื่นที่ตามหลังมาได้ 

บทความที่เกี่ยวข้อง

• มาทำความรู้จักกับรถมอเตอร์ไซค์คันแรกของโลก
• มาทำความรู้จักกับหัวเทียนรถมอเตอร์ไซค์
• มาทำความรู้จักกับปะเก็น ชิ้นส่วนสำคัญของรถมอเตอร์ไซค์

สรุป

จะเห็นได้ว่าหมวกกันน็อคเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญในการขับขี่รถมอเตอร์ไซค์มากเพราะจะช่วยป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นตอนที่เกิดอุบัติเหตุได้ หมวกกันน็อคจะช่วยลดแรงกระแทกที่อาจจะเกิดขึ้นเวลารถชนหรือรถล้ม เพื่อไม่ให้ศีรษะเกิดอันตรายร้ายแรงได้ ในปัจจุบันนั้นมีหมวกกันน็อคให้เลือกอยู่หลายประเภท แต่ทางที่ดีควรเลือกหมวกกันน็อคที่มีเครื่องหมาย มอก. เพื่อความปลอดภัย ไม่ว่าจะขับรถเร็วหรือขับรถในระยะทางที่ไม่ไกลมากก็ควรสวมใส่หมวกกันน็อคทุกครั้ง อุบัติเหตุสามารถเกิดได้ทุกที่ทุกเวลาการไม่ละเลยและป้องกันเป็นสิ่งสำคัญต่อชีวิต

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม

โทร : 04-4511982

Line : @narinmotor

Facebook : NRM Motor